แผ่นดินของพ่อ บนด้ามขวานทอง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปณิธานในการปกครองแผ่นดินว่า “เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เมื่อเรามองตามพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของ         ในหลวงแล้ว เราจะสัมผัสได้กับคำว่า “พูดแล้วทำ” อย่างแท้จริง หากจะกล่าวถึงพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของ       ในหลวงที่มี่ต่อ ประเทศไทยนั้น มีมากมายเหลือคณานับ ไม่สามารถนับมาเขียนได้หมดหรือบอกกล่าวได้หมดภายในเวลาและหน้ากระดาษอันน้อยนิดเป็นแน่แท้ แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่พสกนิกรชาวไทย ตอบแทนในสิ่งที่ในหลวงทรงให้แล้วนั้นสาสมแล้วหรือ การกระทำของชาวไทยทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่สมควรแล้วหรือ การก่อการร้าย การคอรัปชั่น ปัญหานักเรียนตีกัน ปัญหาวัยรุ่นซิ่งรถ ปัญหาต่าง ๆ ปัญหาการแบ่งแยกดินแดน จะแก้ไขอย่างไร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรานั้นทรงสนพระราชหฤทัยในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ทรงพระเยาว์  ทรงเคยได้รับการปลูกฝังความรู้ความเข้าใจจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชนนีมาก่อนแล้ว  ต่อมายังได้ทรงศึกษาค้นคว้าด้วยพระองค์เอง และทรงศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเป็นผู้ที่ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาจนรอบรู้หลักธรรมอย่างละเอียด  แจ่มแจ้ง  และลึกซึ้ง   แต่พระองค์ก็มิไดทรงกีดกันศาสนาอื่น  ตรงกันข้ามกลับทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อทุกศาสนาปัญหาต่างๆ มีต้นเหตุที่ต่างกันมากมายนัก แต่ถ้ามองดูดีๆแล้ว ปัญหาต่างๆ ที่ประเทศไทยกำลังประสบอยู่นั้น กล่าวได้ว่าเกิดจากการที่ คนไทย มีศีลธรรมไม่ทั่วถึงก็คงจะไม่ผิด หากคนไทยทุกคนปฏิบัติตนตามหลักศาสนาของตน คงจะไม่มีการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ถึงขนาดเกิดปัญหาต่างๆที่ยากจะแก้ไขกันในทุกวันนี้

ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ มีวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ มากมาย มีวัดวา อาราม มากมาย แต่ค่านิยมของคนไทยต่างหากที่กลายเป็นตัวกีดกัน ให้คนไทยไม่ได้อยู่ในศีลธรรมมากนัก เช่น ค่านิยมที่หลายคนเชื่อว่า การทำบุญ ยิ่งทำเยอะ ยิ่งได้บุญเยอะ หรือ ค่านิยมของวัยรุ่นที่ว่า การเข้าวัดทำบุญเป็นเรื่องเชย และค่านิยมที่สำคัญอีกอย่างก็คือ การเข้าวัด ต้องไปทำบุญ และการทำบุญ ต้องทำในวันสำคัญสมัยก่อน วัด เป็นสถานที่ศึกษา สมัยก่อน พระ เปรียบดั่งเป็น จิตแพทย์ ที่คอยให้รับคำปรึกษาจากผู้คนมากมาย ซึ่งค่านิยมที่ผิดๆ ของคนไทยต่อการเข้าวัด ทำบุญนั้น มีส่วนทำให้ประชาชนชาวไทยมีศีลธรรมลดลง มีคำกล่าวที่ว่า “ศาสนาไม่เคยเสื่อม คนต่างหากที่เสื่อม” เห็นทีจะเป็นจริง

ดังนั้นแล้ว สิ่งที่เราทุกคนจะทำ เพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อหลวงของเรา ได้นั้น คงไม่พ้นการทำตัวอยู่ในศีลธรรม อยู่ในกฎของศาสนา ของเรา เมื่อทุกคนทำตัวอยู่ในศีลธรรมอันดี การโกงกิน ก็ไม่เกิด การคอรัปชั่นก็ไม่เกิด การฆาตกรรมก็ไม่เกิด สิ่งที่จะบังเกิด ก็จะมีแต่ความสุข ความเจริญ แก่บ้านเมือง และสิ่งสำคัญต่อการแบ่งเบาภาระหน้าที่เลยก็คือ คนไทยต้องหันมารักกัน ไม่แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย แบ่งสี แบ่งดินแดนเพราะท้ายที่สุดแล้ว ทุกคน ก็คือคนไทยเฉกเช่นเดียวกัน

                                                                                                                                                                                                                       นาย ณัฏฐกิตติ์ ไทยเจริญ  ม.5/12 โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย