

จับตา! ปัญหา สหรัฐ-อิหร่าน กระทบท่องเที่ยวภูเก็ตหรือไม่ จับตา! ปัญหา “สหรัฐ-อิหร่าน” จะกระทบ วงการท่องเที่ยวภููเก็ตหรือไม่
ดร. ปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ผู้บริหารบริษัทในเครือพิโซน่า กรุ๊ป จำกัด และประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง ------------------------------------------------------------------ ปัญหาความขัดแย้งสหรัฐ-อิหร่านที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูเก็ต เนื่องจากกังวลว่าภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูเก็ต ในปีนี้จะมี “ปัจจัยลบ” ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวนอกเหนือจากเรื่องของเศรษฐกิจและค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
ดร. ปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ผู้บริหารบริษัทในเครือพิโซน่า กรุ๊ป จำกัด และประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง กล่าวถึง สถานการณ์การท่องเที่ยวหลังเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ อเมริกาและอิหร่านว่าในเรื่องนี้หากเราย้อนไป
ดูไม่ว่าจะเกิดสงครามอะไรในตะวันออกกลาง เราก็จะเกิดผลกระทบ เรามีอุปสรรคที่เป็นปัจจัยภายนอกอย่างหนึ่ง คือ นักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตมาจากยุโรป เมื่อมีเหตุการณ์ทางการสู้รบ เขาก็จะมีการปิดน่านฟ้า นักท่องเที่ยวอาจจะต้องบินอ้อม ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่านน่าจะส่งผลกระทบ ต่อการท่องเที่ยวภูเก็ต เนื่องจากแม้นักท่องเที่ยวจะยังเดินทางท่องเที่ยวเหมือนที่ผ่านมา แต่เส้นทางบินที่ผ่านตะวันออกกลางอาจจะไม่ถูกเลือก ทำให้สายการบินหลายสายได้รับผลกระทบ ทำให้ราคาตั๋วโดยสารแพงขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่าทำให้ราคาแพงขึ้น
เมื่อตั๋วแพงขึ้น ก็มีการลดการเลือกมาภูเก็ตในการเป็นตัวเลือกในการเดินทาง การจะมาท่องเที่ยวในแถบเอเซียหรือภูเก็ต เกิดผลกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางมา
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่มาจากอเมริกา เขาก็มีความหวาดระแวงในการเดินทางมายังจุดท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ของโลก อย่าง ภูเก็ต และ
นักท่องเที่ยวที่มาจากอิหร่านเองก็หวาดระแวงเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ เช่นกัน
ฉะนั้นไม่ว่าตลาดในโซนยุโรป ตลาดในอเมริกา หรือแม้แต่ตลาดในประเทศแถบตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อิหร่าน รวมทั้ง นักท่องเที่ยวที่ต้องบินผ่านน่านฟ้าในประเทศแถบตะวันออกกลางก็มีความหวาดระแวงในด้านความปลอดภัย
ที่สำคัญ ประเทศต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวลูกค้าของภูเก็ต ประเทศเขาก็มีการแจ้งเตือนประชาชนของเขาว่าให้ระมัดระวังในการเดินทางท่องเที่ยว ให้ระวังเหตุการณ์ด้านการก่อการร้าย ซึ่งเป็นข้อกังวลของนักท่องเที่ยวทั้งหลายอยู่ในขณะนี้
แต่จริงๆ แล้ว ปัญหาเรื่องการท่องเที่ยวภูเก็ต ยังได้รับผลกระทบมาจากหลาย ๆ เรื่อง เช่น เรื่องค่าเงินบาทแข็ง ภาวะสงครามที่มีขณะนี้จึงเป็นอุปสรรคเพิ่มขึ้นในการเติบโตของอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวของภูเก็ต อาจจะส่งผลให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตมีการชลอตัวลงบ้าง
ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวก็จะต้องมีการปรับตัวไปทำตลาดการท่องเที่ยวในโซนแถบโลกตะวันออก ตลาดเอเชีย ตลาดจีน ตลาดญี่ปุ่น ตลาดอินเดีย หรือ แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูเก็ตต้องมีตลาดนักท่องเที่ยวใกล้ ๆ บ้านเรารองรับให้มากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่า สงครามไม่ทำให้เกิดผลดีใด ๆ สงครามไม่ทำให้การท่องเที่ยวของเรามีการพัฒนา ตราบใดที่มนุษย์มีความกลัว เขาก็ไม่อยากไปเที่ยว เมื่อมนุษย์มีความหวาดระแวงในเรื่องความปลอดภัย เศรษฐกิจของโลกทั้งโลกก็ย่อมตกต่ำลงไป เพราะสงครามจะส่งผลกระทบไปยังทุก ๆ สายของภาคธุรกิจ ไม่ใช้แต่ภาคการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เนื่องจากว่า ภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวค่อนข้างที่จะมีความเปราะบางสูง กว่าธุรกิจอื่น ๆ ในเวลาที่เกิดการสู้รบ เกิดความไม่ปลอดภัยอะไรก็ตาม เมื่อมีสงคราม ย่อมจะส่งกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างมาก ฉะนั้น ในภาคเอกชนภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวก็ต้องปรับตัวกันให้ได้
นอกจากการปรับแผนการตลาดการท่องเที่ยว การเป็นเจ้าบ้านที่ดี ก็ช่วยได้มาก การสร้างความประทับใจเป็นเจ้าบ้านที่ดี ควรเน้นไปเรื่องความปลอดภัย สร้างคุณค่าด้านความปลอดภัยในภูเก็ตขึ้นมาใหม่ ให้ความร่วมมือกับภาครัฐให้มากยิ่งขึ้น ช่วยกันดู ช่วยกันเป็นหูเป็นตา มีกล้องวงจรปิด เราขายการท่องเที่ยวเน้นในด้านความปลอดภัยให้มากขึ้น เราก็น่าจะขายได้ เมื่อนักท่องเที่ยวมาเที่ยวภูเก็ตนักท่องเที่ยวเขาก็จะรู้สึกมั่นใจในด้านความปลอดภัยมาก เมื่อพวกเขาหมดกังวลเรื่องความปลอดภัย ก็มีความสุข ความสนุก ความประทับใจ และอยากจะกลับมาอีก
ที่ต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากประเทศเราเป็นประเทศที่เป็น กลาง เราก็ต้องมีการเฝ้าระวัง ให้ดี ให้เข้มแข็ง ในเรื่องของการก่อการร้าย ป้องกันไม่ให้มีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ภูเก็ต” ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโลก ก็ต้องมีการระวังภัย ป้องกันภัยกันให้มากยิ่ง ๆ ขึ้น
ผมจึงขอฝากไว้ ว่า ผู้ประกอบการนักธุรกิจการท่องเที่ยวในภูเก็ต ควรมีการปรับตัว
1) ควรมีการปรับโซนตลาดนักท่องเที่ยว
2) มีการปรับตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีเน้นเรื่องความปลอดภัย และ
3) มีความรักความสามัคคี และช่วยกันเป็นหูเป็นตา ให้ความร่วมมือที่ดีต่อภาครัฐ
ในวิกฤติย่อมมีโอกาส เราต้องมีการปรับตัว มีการสร้างความปลอดภัย สร้างความเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีการปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ให้ได้ ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในภูเก็ต ต้องสร้างบรรยากาศเกาะภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยสูง เมื่อเราปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ของโลกได้ ไม่ว่าจะมีปัจจัยลบ ปัจจัยกระทบภายนอกใดๆก็ตาม เราก็จะผ่านมันไปได้ ด้วยความรัก ความสามัคคี ของคนในภูเก็ต ของคนในชาติเราเอง ถึงแม้เราจะมีความเห็นต่างในเรื่องใด ๆ ต่อกันบ้าง แต่เราจะไม่แตกแยก เมื่อมีปัญหา เราก็ ต้องนำความรักความสามัคคีเข้ามานำพาในการแก้ปัญหา เมื่อมีผลกระทบใด ๆ ก็ตามมันจะผ่านไปได้ด้วยดี และพลิกผันจาก”วิกฤติ” เป็น “โอกาส” ให้ การท่องเที่ยวของภูเก็ต ก้าวพัฒนาผ่านไปได้ เติบโตก้าวหน้าไปด้วยกัน ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ขัดแย้งใด ในโลกก็ตาม |
ป่าตองเข้มแข็ง by ดร.ปรีชาวุฒิ กี่สิ้น