ฝากภาครัฐ ฟื้นฟู การท่องเที่ยวป่าตอช่วงโควิด19 ฝากภาครัฐ ฟื้นฟู ท่องเที่ยวภูเก็ต ลดภาษี เพิ่มเงินเยียวยา ปล่อยซอฟท์โลน เปลี่ยนผังเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจ
ดร. ปรีชาวุฒิ กี่สิ้น
ผู้บริหารบริษัทในเครือพิโซน่ากรุ๊ป และประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง
ผมได้มีโอกาสเข้าไปยื่นหนังสือต่อรัฐบาล ผ่าน กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ โดยท่านพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองประธานคณะ กมธ. การพัฒนาเศรษฐกิจคนที่สาม ท่านได้รับหนังสือไว้ ผมได้เสนอหนังสือถึงรัฐบาล เกี่ยวกับเรื่องมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการสถานบันเทิงในจังหวัดภูเก็ต ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
เรื่องแรก อยากให้ภาครัฐเยียวยาผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มคนที่ทำสถานบันเทิง และผู้ประกอบการรายย่อยอื่นๆ ขอให้ภาครัฐลดภาษีทุกประเภท รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิต พวกผู้ประกอบการประสบปัญหาหลายด้านรวมถึงประสบปัญหาคนงาน ขาดหาย ลูกจ้างที่เคยอยู่ภูเก็ตได้กลับภูมิลำเนาหมดแล้ว จะเรียกกลับมาทำงานก็ลำบาก ส่วนมากลูกจ้างไม่กลับมาแล้วเพราะค่าครองชีพสูง อยากให้ภาครัฐช่วยผู้ประกอบการรายย่อยของภูเก็ตในเรื่องภาษีก่อน เรื่องที่สอง คือ ป่าตองเราปิดมา 3 เดือนแล้ว พวกพนักงานในสถานบันเทิง ศิลปิน นักดนตรี นักแสดงในสถานบันเทิง คนที่ทำงานพวกเขาขาดรายได้ บางคนอยู่บ้านเช่า บางคนกำลังจะถูกไล่ออกจากบ้าน ได้เงินเยียวยา 5,000 บาท มันไม่พอ เพราะภูเก็ตมีค่าครองชีพสูง ไม่พอดำรงชีพ ไม่พอค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน หลายคนไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม อยากให้ภาครัฐเพิ่มจาก 5,000 เป็น 10,000 ก็ยังดี จะได้เยียวยากันต่อชีวิตกันไปอีก 3 เดือน 6 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิม เรื่องต่อมา เรื่องเงินกู้ Softloan ดอกเบี้ยต่ำ 2% หลายท่านในภูเก็ตยังไม่ได้เงิน อยากให้ภาครัฐเอาเงินกู้ ดอกเบี้ย 2% มาให้กู้ผ่านธนาคารภาครัฐ ให้ SME กู้ดอกเบี้ย 2% สัก 5 - 7 ปี ให้จ่ายคืนน้อย ๆ จ่ายแต่ดอกเบี้ยอย่างเดียวก็ได้ สัก1 ปี ที่เหลือค่อยให้จ่ายแบบมีเงินต้นด้วย SMEภูเก็ตเรา ต้องการความช่วยเหลือ สำหรับภาคเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า เงินกู้สำหรับ SME ตั้งแต่ 1 ล้านบาท – 5 ล้านบาท ควรให้ภาครัฐจัดลงมาให้ และผมอยากให้จัดตั้งกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจแก่ผู้ประกอบการรายย่อย (SME) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูเก็ต ด้วย สำหรับป่าตองที่เดียวผมว่าพวกเราต้องการเงินกู้มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในการพยุงเศรษฐกิจ เพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 1 – 2 ปี นี้ นอกจากนี้ ก็มีเรื่อง อยากให้ภาครัฐติดตั้งเครื่องตรวจเชื้อไวรัสโควิด -19 ณ ทางเข้าออกถนนบางลา ป่าตอง และขอให้มีมาตรการในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในภูเก็ตให้กลับมาเฟื่องฟูดังเดิม รวมทั้งขอให้รัฐบาลขยายเวลาปิดสถานบันเทิง เป็น ตี 4 เพื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเมืองท่องเที่ยวอย่างป่าตอง อีกเรื่องที่สำคัญมาก ผมอยาก ให้ภาครัฐ เปลี่ยนผังเมือง เพื่อการเติบโตของภูเก็ตในอนาคตและควรมีการวางผังเมืองแบบให้ประชาชนมีส่วนร่วม ภาครัฐไปพัฒนาเมืองท่องเที่ยวที่ต่างๆในประเทศไทย แต่ภาครัฐลืมที่ป่าตอง อำเภอกะทู้ ผมอยากให้ภาครัฐช่วยปรับเปลี่ยนเรื่องผังเมือง ให้ป่าตองสามารถสร้างตึกสูงได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะพื้นที่บนเขา ควรจะให้สร้างได้สูงกว่านี้ สัก 120 - 200 เมตร เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบ MICE Tourism City และ Sport Tourism City ในการสร้างตึกที่สูง 120-200 เมตรนั้น เราจะได้มีพื้นที่ดินเหลือ จะได้มีที่จอดรถ ที่ดินสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นอีกมากมาย เมื่อมีการอนุญาตให้มีการสร้างตึกสูงได้ ก็จะมีการจ้างงาน มีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุน เพราะนอกจากทะเล แหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมแล้ว ภูเก็ตยังสร้างให้มีการท่องเที่ยวที่หลากหลายได้ มีทั้งเรื่อง MICE ศูนย์ประชุมนานาชาติ ทั้งเรื่อง Sport Tourism ดังนั้น สาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็ควรมีมารองรับ ทั้งรถไฟฟ้า รถใต้ดิน วางแผนกันไว้ตั้งแต่วันนี้ ตึกสูง ๆ ก็จะทำมาเพื่อรองรับตลาด MICE รองรับ Event ใหญ่ ๆ และ ตลาด Sport Tourism ในอนาคต เราทำเป็น in door Sport และ E-Sport รวมทั้งสร้างแหล่งช้อปปิ้งต่าง ๆ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางการท่องเที่ยวป่าตองได้ เมื่อมีการลงทุน มีการสร้างตึกสูงเราสามารถเก็บภาษีเพื่อนำกลับมาบำรุงเมืองในยุทธศาสตร์อื่น ๆ เช่น ยุทธศาสตร์น้ำ แก้ปัญหาน้ำเสีย น้ำไม่พอใช้ หรือ นำเงินภาษีไปทำพิพิธภัณฑ์ ทำประโยชน์ในการทำนุ บำรุง ส่งเสริมวัฒนธรรม ถ้าเรามีตึกสูง ๆ ก็ไม่ต้องสร้างอาคารเต็มพื้นที่ เต็มแน่นเหมือนที่เห็นกันขณะนี้ มีตึกสูงก็จะมีพื้นที่ดินเหลือ เราจะมีที่จอดรถ มีถนนกว้าง ๆ มีสวนสาธารณะ มีสถานที่ออกกำลัง ต่อไปภูเก็ตเราจะกลายเป็น Sport Tourism City ในอนาคต เราก็ต้องช่วยกันผลักดัน เพื่อให้ภูเก็ตก้าวไปสู่เมืองท่องเที่ยวระดับโลกให้ได้ |