ReadyPlanet.com
อ่านข่าวภูเก็ตออนไลน์บนเฟซบุ๊ค
พอเพียงก็เพียงพอ
หอการค้าจังหวัดภูเก็ต
เทศบาลตำบลราไวย์
เทศบาลตำบลศรีสุนทร
เทศบาลตำบลกะรน
พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต
เทศบาลตำบลวิชิต
ห้างสรรพสินค้าจังซีลอน ภูเก็ต
ภูเก็ตไข่มุก Phuket Pearl
โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์
โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
โรงแรมป่าตองเบย์ฮิลล์
บ้านศิลาชล ระยอง
Touch Star Resort เชียงใหม่
โรงแรมเครือกะตะกรุ๊ป
โรงแรมรอยัลพาราไดส์แอนด์สปา
Marina Phuket  Resort
โรงแรม Orchidacea Resort
โรงแรมกะตะธานี
ร้านคุณแม่จู้
ม.อ.ภูเก็ตPSU Phuket
บทความLifeStyle


Phuket Model กับ ภูเก็ตจัดการตนเอง

 Phuket Model กับ ภูเก็ตจัดการตนเอง    

การตัดสินใจผิดของรัฐบาลทำให้ภูเก็ตเสียโอกาส และล้าหลังไป หนึ่งร้อยปี

 

 
ดร. ปรีชาวุฒิ  กี่สิ้น  ผู้บริหารบริษัทในเครือพิโซน่า กรุ๊ป จำกัด และ ประธานมูลนิธิพัฒนาป่าตอง

 ----------------------------------------------------------------------------------------

 ป่าตอง มีหลายเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะเรื่อง เงินเยียวยา เพราะมันสำคัญต่อการที่เราจะมีชีวิตอยู่รอดต่อไป เงินเยียวยา ควรจะได้สัก 5,000 – 10,000 บาท /คน

เรื่องที่สองคือ เรื่อง การพักชำระหนี้  เพราะ รถ บ้าน หรือสิ่งที่จำเป็นในชีวิตต้องไม่ถูกยึดในระยะนี้ สัก 3 ปี เป็นอย่างน้อย เพื่อที่ลูกจ้างแรงงานในภูเก็ตจะได้มีแรงต่อลมหายใจ กันต่อไป
เรื่องต่อมาเป็นเรื่องของ SME ที่ควรจะได้รับ Soft Loan ที่ยาวขึ้นมากขึ้น

ทุกอย่างที่ภาครัฐทำในระยะเวลาที่ผ่านมาถือว่าก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ว่ายังไม่สามารถทำให้ภูเก็ต ที่เป็นเมืองการท่องเที่ยวนานาชาติ ฟื้นฟูได้ 
สรุปได้ว่า รัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการฟื้นฟูภูเก็ตให้เป็นวาระแห่งชาติ เนื่องจากว่า ภูเก็ต ถือว่า วิกฤติมาก ในเรื่อง เศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว เพราะภูเก็ตต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวจากนานาชาติ

ถ้าภาครัฐไม่สามารถช่วยอะไรพวกเราได้ พวกเราก็ต้องหันกลับมาดูว่าพวกเราสามารถทำอะไรกันได้บ้าง อันดับแรก อยากจะบอกให้ชาวภูเก็ต “ตั้งสติ” ก่อน เพราะภาครัฐอาจจะมาช่วยได้แค่นิดหน่อย พวกเราต้องเปลี่ยนตัวเอง เช่น ถ้าต้องต้อนรับลูกค้าชาวไทยมากขึ้น เราก็ต้องเปลี่ยนเรื่อง “ราคา” ก่อน ต้องเปลี่ยนราคาให้เหมาะสมกับคนไทย เหมาะกับรายรับหรือค่าครองชีพที่คนไทยมี ระยะนี้เราจะตั้งราคาแบบนานาชาติไม่ได้ เพื่อที่จะลบภาพจำ ที่คนไทย จำว่า “ภูเก็ตแพง” 

ซึ่งจริงๆ แล้วการเดินทางมาเที่ยวภูเก็ตมีทั้งถูกและแพง อยู่ที่การวางแผน ในเรื่องของระบบขนส่ง การเดินทาง เราก็รู้ว่า เราไม่สามารถตั้งราคาในราคาเดิมที่เคยมีมาได้ ธุรกิจเกี่ยวการการเดินทางก็ต้องตั้งราคาลดลงมา อาจจะลดราคา 50% หรือจัดให้มีบริการที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของการลดราคาลง ส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของการให้บริการที่ดี ในรูปแบบที่ให้กับคนไทยมากขึ้น อาจจะต้องทำงานมากขึ้น ทำตัวให้เป็นไกด์เป็นเจ้าบ้านมากขึ้น มีบริการต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้เกิดความประทับใจกับคนไทย ควรจะต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจของเราไปได้ด้วยตนเองด้วย ไม่ใช่แต่รอความช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างเดียว
ในภาพรวมทั้งประเทศภาษีที่เก็บได้ และเศรษฐกิจโดยรวม แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ภาครัฐจะมีเงินมาช่วยภูเก็ตของเราได้ นอกจากมีการกู้ และเงินที่กู้มานั้น ก็ไม่ได้มาถึงปัญหาจริงๆ เพราะที่แก้กันไปแล้ว เป็นการแก้ในระยะสั้น 3 เดือนแรกเท่านั้น แต่ระยะกลาง ระยะยาว ยังไม่มีนโยบายแก้ปัญหาใดๆ ออกมา  
เงิน 4 แสนล้าน ที่ผ่านโครงการต่าง ๆ มา  ก็ยังไม่เป็นประโยชน์สูงสุดมากนัก ไม่มีการกระตุ้นการบริโภคในเบื้องต้น ทำให้ขาดสภาพคล่องในภาพรวม และที่มีการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่าน อสม. นั้น อาจจะมีประโยชน์กับหลายๆ พื้นที่ แต่แทบจะไม่มีประโยชน์ใดๆ กับภูเก็ตในเชิงที่จะช่วยฟื้นฟู 

ในเรื่องภูเก็ตโมเดล ผมว่า ดี ในการค่อย ๆ ให้นักท่องเที่ยวมา ภาครัฐควรมีการประชาสัมพันธ์ก่อนว่า จะมี
นโยบายอย่างไร ในการทำภูเก็ตโมเดล ให้คนภูเก็ตไม่กลัว ให้มีความมั่นใจว่าจะทำอย่างไรให้ปลอดภัย แล้วค่อยประกาศว่า จะเปิดโครงการภูเก็ตโมเดลวันไหน รัฐบาลควรจะให้มีนักท่องเที่ยวที่มีความพร้อมที่จะเข้ามา แต่ไม่ว่าจะเป็นโมเดลไหน 
ก็ไม่ตอบโจทย์การท่องเที่ยว
ในปัจจุบัน  เพราะภูเก็ต
และ    ประเทศไทย มี 
over supply มาก ภูเก็ตมีห้องพักกว่า แสนห้อง แต่คนเข้าภูเก็ตมีหลักพันต่อวัน เป็นแค่1-2เปอร์เซนต์ ฉะนั้นไม่แปลกเลยถ้าป่าตองหรือที่อื่นๆ จะมีผู้ประกอบการปิดกิจการไป 80-90 เปอร์เซนต์ มันเป็นเรื่องของอุปสงค์อุปทานอยู่แล้ว ในเมื่อคนมาหลักพันแต่มีห้องหลักแสนก็ต้องปิดดีกว่า 
ในการปิดกิจการจำนวนมากแบบนี้ ปัญหาที่ตามมาคือ การตกงานอย่างมหาศาล เพราะไม่คุ้มกับการเปิดกิจการในช่วงนี้ ผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าแรง จ่ายค่าเช่า จ่ายค่าน้ำค่าไฟ และจ่ายหนี้ธนาคาร ในกรณีที่ยังมีคนเปิดกิจการอยู่บ้าง เขามีการขาดทุนเรื่องค่าเสื่อมราคา ขาดทุนค่าน้ำไฟ ขาดทุนค่าซื้ออุปกรณ์ ขาดทุนค่าโสหุ้ยค่าเสียเวลาต่าง ๆ เขายังขาดทุน แต่พวกเขายังเปิดเพื่อรองรับในระยะสั้น แต่กลุ่มผู้ประกอบการเหล่านั้น น่าจะเปิดได้ไม่นานเพราะพิษโควิด19 ที่กระทบอยู่นี้มันรุนแรงมาก เดือนนี้เข้าสู่เดือนที่ 7 แล้ว ส่วนมากก็จะอยู่ได้ไม่นาน เงินเก็บก็คงใกล้จะหมดกันแล้ว ที่ป่าตองห้องพักที่เปิดกันอยู่ ก็มีแค่ 5 เปอร์เซนต์  ยิ่งเปิดน้อยความน่าสนใจก็ยิ่งน้อยยิ่งถดถอยลงไปเรื่อยๆ เมืองไม่มีอะไรนักท่องเที่ยวก็เหมือนมาดู เมืองร้าง

สิ่งที่เป็นห่วงมาก คือ นโยบายที่ไม่ตรงประเด็นของภาครัฐ เงินช่วยเหลือที่ล่าช้า และเงินช่วยเหลือที่น้อยไป ภาครัฐควรทำให้เกิดความสมดุลทางเศรษฐ กิจ และความปลอดภัย ในไม่นานยุคนี้อาจจะกลาย เป็นยุคข้าวยากหมากแพง ที่จะเห็นคนออกมาปล้นฆ่าชิงทรัพย์กันมากขึ้น นั่นมาจากนโยบายภาครัฐ ที่น้อย ช้า และไม่ตรงประเด็น ภูเก็ตเองก็อาจจะถูกทิ้งไปในรอบนี้เอง

ภูเก็ตเป็นหม้อข้าวดี ๆ สักใบ ที่เราสูญเสียน้อยที่สุด และได้รายได้เยอะที่สุด ก็คือ “การท่องเที่ยว” เราเสียทรัพยากรช้ากว่าอุตสาห กรรมหนักอื่นๆ ถ้าภาครัฐไม่ได้รักษา ภูเก็ต เอาไว้ ไม่ได้รักษาการท่องเที่ยวของภูเก็ตเอาไว้ ก็จะทำให้พัฒนาประเทศช้าล้าหลังอย่างแน่นอน 

ภาครัฐตอนที่มีการกู้เงิน 1.9 ล้านล้าน ก็ถือว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างสั้น จริง ๆ ต้องกู้สัก 6 ล้านล้าน แบ่งเป็นกู้ 2ล้านล้าน สัก 3 ครั้ง ถ้ามีเงินมากขนาดนั้น การมีหนี้มันก็ค่อยๆ ผ่อนได้ในสิบปียี่สิบปี แต่พอเรากู้มาไม่พอ อัดไปไม่พอ ระบบมันจะล่ม จะเหลือผู้บอบบางมาแทนที่ การใช้เงินก็ต้องใช้กับการบริโภคที่สูญเปล่า ไม่สามารถนำมาบริหารจัดการที่ดี เป็นความวิกฤติที่ค่อนข้างอันตรายที่อยากให้ภาครัฐมีวิสัยทัศน์ ที่ยาวไกลกว่านี้อีกนิด
ซึ่งแน่นอน หากภาครัฐเพิกเฉยกับภูเก็ต ผมแนะนำ ให้ภูเก็ตจัดการตนเอง เปิดสนามบินเอง ควบคุมกฎหมาย เกี่ยวกับ ต.ม.เอง มีการกักตัวนักท่องเที่ยวกันเอง ภูเก็ตจะฟื้นได้เร็วกว่าที่จะรออำนาจส่วนกลางมาตัดสินใจ เพราะภูเก็ตมีศักยภาพพอที่จะรับนักท่องเที่ยวที่กักตัวได้ สามารถปิดเมืองง่าย แต่ไม่มีโอกาสในการจัดการตนเอง มันเลยไปต่อไม่ได้ 

การตัดสินใจผิดของรัฐบาลทำให้ภูเก็ตเสียโอกาส และล้าหลังไป หนึ่งร้อยปี 
ถ้าภูเก็ตเปิดสนามบินเอง รับนักท่องเที่ยวเอง ปิดเมืองเองได้ คนที่อยากจะขายของก็ขายจากแผ่นดินใหญ่ให้เกาะภูเก็ตได้ มันไม่เกี่ยวกับเงิน แต่มันเกี่ยวกับคนภูเก็ต เราไม่มีโอกาสในการบริหารจัดการเกาะภูเก็ตไข่มุกอันดามันของเราเอง ทุกวันนี้มันต้องขึ้นกับกฎหมายส่วนกลาง ภูเก็ตเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง ถ้าภูเก็ตจัดการตนเองได้มันก็จะไปได้ไกล

ผมว่ารัฐควรเปลี่ยนเรื่องระบบการจัดการและความจริงในในการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต 



ป่าตองเข้มแข็ง by ดร.ปรีชาวุฒิ กี่สิ้น

รัฐไฟเขียวเปิดสถานบันเทิง ตี 4 บางลานำร่อง
ฝากภาครัฐ ฟื้นฟู การท่องเที่ยวป่าตอช่วงโควิด19
หลังโควิด19_การจัดการท่องเที่ยวป่าตอง
เฟ้นโอกาส ในวิกฤติ โควิด-19
จับตา! ปัญหา “สหรัฐ-อิหร่าน” กระทบท่องเที่ยวภูเก็ตหรือไม่
การท่องเที่ยวป่าตอง ภูเก็ต หลังเปิดหาด ปังหรือแป๊ก?
ทัวร์จีนลดกระทบท่องเที่ยวภูเก็ต
ปราบปัญหายาเสพติดแก้ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจ
คุ้มไหม อุโมงค์ป่าตอง ?
เหลียวหลัง แลหน้า เศรษฐกิจป่าตอง
ยกป่าตองให้เป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษ
เขาถามกันว่าทำไมผมไม่เล่นการเมือง
4ปี คสช ท่องเที่ยวภูเก็ต สงบ แต่ ซบเซา
สร้างภูเก็ตให้เป็นสังคมน่าอยู่ด้วย CSR
เป็นคนป่าตองไหม? คนป่าตองควรให้อะไรแก่สังคมบ้าง?
ป่าตองเมืองท่องเที่ยวสะอาดปลอดภัย
สมรภูมิป่าตอง
ดุลยภาพแห่งการสมยอม
ปัญหาไลฟ์การ์ดภูเก็ต



แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล