วิธีขจัดความโกรธ วิธีขจัดความโกรธ
ถาม ปกติจะเป็นคนใจเย็น แต่สงสัยทำไมในบางสถานการณ์ บางคนถึงทำให้เราโกรธได้มากทั้งที่เป็นเหตุการณ์ธรรมดาๆ อย่างเช่นเราจะถอยรถเข้าจอดดีๆ รถที่ตามมาต้องจอดรอก็มองหน้าด้วยความไม่พอใจ ตอนนั้นเกิดความโกรธแบบอยากมีเรื่อง เอาไงเอากัน อย่างนี้ขอคำอธิบายได้ไหม นี่คือคู่เวรเก่าหรือเปล่า? ถ้าไม่สามารถระลึกชาติได้ด้วยตนเอง ก็อย่าเพิ่งหาคำอธิบายระดับข้ามภพข้ามชาติเลยครับ เอาคำอธิบายแบบเป็นเหตุเป็นผลที่ฟังขึ้นดีกว่า ผัสสะที่มากระทบเราให้เกิดความชอบความชังนั้น มีความหนักเบาต่างกัน คล้ายลูกเทนนิส ลูกบอล และลูกบาส ที่มีขนาดและน้ำหนักต่างกัน ความแข็งแน่นต่างกัน และถ้าพุ่งมาปะทะเราด้วยความแรงต่างกัน ความเจ็บปวดก็จะผิดกันเป็นคนละเรื่อง กำลังจิตของแต่ละคนเปรียบเหมือนขนาดวัตถุ บางคนเท่าลูกเทนนิส บางคนเท่าลูกบอล บางคนก็เท่าลูกบาส ส่วนเจตจำนงคิดประทุษร้ายหรือคิดหาเรื่องนั้น เปรียบเหมือนความแรงความเร็วที่วัตถุพุ่งเข้ามากระทบเรา ฉะนั้นอย่าแปลกใจถ้าแค่มองหน้ากันแล้วเป็นเดือดเป็นแค้น เป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาได้มากราวกับเคยตามล่าจองล้างกันมาแต่ปางไหน อีกประการหนึ่ง ความโกรธนั้นมีหลายรูปแบบ เช่นโกรธอย่างมีสติ กับทั้งมีเหตุผลสมควรให้โกรธ อีกแบบคือโกรธอย่างไร้สติ ขาดเหตุผลในการโกรธแทบสิ้นเชิง ชนิดของความโกรธที่แตกต่างกันนั้น เปรียบเหมือนเชื้อไฟต่างชนิดที่จุดชนวนโกรธให้คนอื่นได้ผิดกันไปด้วย สำหรับความโกรธที่ยังมีสติและเหตุผลอันควรโกรธนั้น สัมผัสดูจะมีแต่แรงอัดหรือความกดดันที่ก่อบรรยากาศทึบทึมชั่วขณะ หรือถ้าร้อนก็ร้อนแบบไฟไหม้ฟาง รู้สึกได้ว่าเดี๋ยวเดียวก็หาย ความโกรธชนิดนี้เห็นแล้วจะไม่พลอยขัดเคืองตามไปด้วยมากนัก แต่ส่วนความโกรธที่ไร้สติและเหตุผลอันควรโกรธนั้น สัมผัสจะหยาบ ก่อความระคายรุนแรง เสียดแทงกันได้เหมือนเข็มแหลม ขนาดแค่มองหน้ากันก็เจ็บใจราวกับโดนอีกฝ่ายแกล้งบิดไส้บิดพุงให้ควั่นเกลียวก็ไม่ปาน พูดง่ายๆว่าความโง่อย่างแรงของฝ่ายหนึ่ง อาจชักจูงให้อีกฝ่ายหนึ่งพลอยโง่ตามไปด้วยชั่ววูบ และชั่ววูบนั้นเองอาจหมายถึงการชักปืนออกมายิงกันบนถนนอย่างง่ายดายเหลือเชื่อ ทั้งที่เกิดมาเพิ่งเคยเจอหน้าเป็นครั้งแรกแท้ๆ การที่เราเป็นฝ่ายถูกทำให้โกรธรุนแรงตามคนอื่นแบบปุบปับฉับพลันนั้น ดูเผินๆเหมือนน่าเห็นใจอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน แต่หากพิจารณาดีๆแล้ว ฝ่ายเรามีโอกาสตั้งสติมากกว่า ฝ่ายเรามีโอกาสตัดเรื่องไม่เป็นเรื่องออกจากใจได้ก่อน และฝ่ายเรามีโอกาสทำจิตเป็นน้ำเย็นเข้าลูบจิตเขาได้ง่ายกว่า ฉะนั้นเป็นสิทธิ์ตัดสินใจของเรา ว่าคราวต่อไปถ้าเจอเหตุการณ์ไร้สาระทำนองเดียวกันอีก เราจะยอมโง่ตามโลกหรือฉลาดเลือกสวนกระแสโลก ความโกรธอย่างไร้เหตุผลมักตามมาด้วยการผูกใจเจ็บยืดเยื้อ เพราะคุณไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรไปดับความโกรธ ความโกรธอย่างไร้เหตุผลเหมือนเชื้อโรคร้ายที่ถ้าเปิดรับเข้ามาครั้งหนึ่ง ก็อาจลุกลามจนรักษาไม่หายได้ เมื่อพิจารณาจนเข้าใจถ่องแท้ ว่าคุณกับเขาเป็นคนละคนกัน ต่างฝ่ายต่างถือกรรมคนละแบบ มีคุณภาพจิตใจคนละระดับ คุณไม่จำเป็นต้องอึดอัดกับความไร้เหตุผลของเขานานๆ ตลอดจนไม่จำเป็นต้องหลงพลัดไปเป็นคนแบบนั้นด้วย เห็นเปรียบเทียบเข้าไปจนเห็นความต่างอย่างชัดเจนได้จริงเมื่อไหร่ ความสว่างทางปัญญาก็จะฉายเข้ามาแทนความมืดแห่งโทสะไปได้เองครับ ถาม เคยถูกข่มขืน โดนทำร้ายทั้งร่างกายและเอาทรัพย์สินไป ไม่สามารถลืมได้แม้ผ่านมานานช่วงหนึ่งแล้ว ขอคำแนะนำดีๆที่จะทำให้สบายใจหน่อยได้ไหมคะ? หลังๆผมมักได้รับคำถามที่ยากจะตอบให้รู้สึกดี เพราะคำปลอบมักไม่ได้ผลสำหรับคนที่ประสบพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายจริงๆ โดยเฉพาะกับเพศหญิงซึ่งควรได้รับการทะนุถนอม แต่ขณะเดียวกันก็เป็นฝ่ายถูกกระทำได้ง่าย โดยคนอายยาก เตือนยาก เปลี่ยนสันดานยากจำนวนหนึ่ง ในกรณีของคุณที่กล่าวว่าเหตุการณ์ผ่านมานานช่วงหนึ่งแล้ว ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องที่เกิดหนเดียวทีเดียว และคุณไม่คิดต่อความยาวสาวความยืดทางคดีความ แก้แค้นทางกฎหมายหรือกฎหมู่ ซึ่งก็นับว่าน่าเห็นใจมากครับ ไม่ว่าจะตอบโต้อย่างไร ฝ่ายหญิงดูจะต้องถูกกระทำให้อับอายหนักขึ้นเสมอ ทั้งแง่ของการตรวจร่างกาย และทั้งแง่ของคำให้การบรรยายรายละเอียดต่อพนักงานสอบสวน และเรื่องแย่ๆแบบนี้ การปลอบกันด้วยหลักกรรมวิบากอาจยิ่งทำให้รู้สึกย่ำแย่หนักขึ้น เพราะเอาภาพเหตุการณ์จริงในอดีตชาติมาฉายกันไม่ได้ ว่าใครเคยทำอะไรมากันบ้าง ฉะนั้นจึงควรเรียนรู้หลักวิธีการ ทำใจ กันอย่างตรงไปตรงมา น่าจะดีที่สุดครับ เวลานึกย้อนไปถึงอดีตที่เลวร้ายแล้วโกรธแค้นเขาแน่นอก พอคิดสาปแช่งเขาให้หนำใจสุดฤทธิ์สุดเดช จะแผดเสียงอยู่ในรถหรือผรุสวาทอยู่ในใจก็ตาม ลองสังเกตว่ามีอะไรดีบ้าง นับเริ่มจากทำความรู้สึกไปที่แก้วตาตัวเอง ทำความรู้สึกไปที่แก้วเสียงหรือกระแสความคิดตัวเอง เห็นให้ชัดว่า อกุศลธรรม ปรุงแต่งเราให้มืดได้ประมาณนี้ ที่ตรงนั้นขอให้ตระหนักดีๆว่า นี่แหละที่เรียกว่าการทำร้ายตัวเอง โดนคนอื่นทำร้ายไม่พอ มาขังตัวเอง ทำร้ายตัวเองในคุกมืดต่ออีก ยิ่งคิดถึงเขาในทางมืด ยิ่งสาปแช่งเขาให้หมกไหม้ ตัวเราเองกลับถูกความมืดครอบและเดือดร้อนก่อนใคร ถ้าขาดใจตายไปด้วยดวงจิตที่ยังมืดบอดและร้อนรุ่มเหมือนอย่างนี้ ก็ยากที่จะไปดีกับใครได้ และถ้าต้องไปร้าย ก็แปลว่าคุณไม่ยุติธรรมกับตัวเองเลยครับ ที่ได้รับความเจ็บปวดจากน้ำมือคนอื่นแล้วยังส่งตัวเองลงต่ำ ซ้ำเติมเข้าให้อีก คนอื่นทำได้แค่ให้ร่างกายคุณเกิดแผล แต่มีคุณคนเดียวที่ทำให้จิตวิญญาณตัวเองบาดเจ็บเกินเยียวยา! หลังจากเห็นโทษภัยของความผูกใจเจ็บชัดเจน ตรงนั้นให้ลองสลับไปนึกเมตตาตัวเอง มองตามจริงว่าวิธีเดียวที่จะเมตตาตัวเองได้ ก็คือสละความคิดอาฆาตแค้นทิ้งไปเสีย หากให้อภัยได้แม้เพียงวูบเดียว ให้ลองทำความรู้สึกเข้ามาที่นัยน์ตา ทำความรู้สึกเข้ามาที่กลางอก แล้วเห็นให้ชัดว่าแสนสบายอย่างไร มีระดับความเยือกเย็นเกิดขึ้นแค่ไหน หรือกระทั่งเกิดแสงสว่างไสวเพียงใด นั่นแหละครับ ตระหนักเข้าไปเดี๋ยวนั้นว่านี่คือจุดเริ่มต้นของใบหน้าที่เป็นสุข และอาจฉุกคิดว่าทำไมคุณต้องเป็นเจ้าของใบหน้าที่เป็นทุกข์ด้วย? ในเมื่อต้นเรื่องไม่ใช่คุณ คุณไม่ได้ทำผิดคิดร้ายกับใคร ถ้าเจ้าคิดเจ้าแค้นประสาโลกธรรมดา ฟังดูอาจเป็นเรื่องบ้าที่ให้ยอมยกโทษกันง่ายๆ แต่ถ้าช่างคิดช่างเลือกอย่างฉลาดสรรประโยชน์มาสู่ตน การยกโทษคือทางออกเดียวให้กับความทุกข์ ความแค้นเสียดแน่นกับวันคืนที่สกปรกจะไม่จบง่ายๆด้วยการทำใจครั้งเดียว คุณต้องถูกเสียดแทงด้วยความทรงจำแต่หนหลังอีกเป็นร้อยเป็นพันครั้ง และทุกครั้งที่เห็นข้อเปรียบเทียบระหว่างผูกใจเจ็บกับให้อภัยเป็นทานในเวลาไล่ๆกัน คุณจะเห็นตัวเองฉลาดทางจิตมากขึ้นเรื่อยๆ และจิตที่ฉลาดจะปล่อยวางภาวะไม่ดี แล้วหันมารักษาภาวะดีๆแทนเสมอ ธรรมชาติให้ความยุติธรรมด้วยวิธีที่เหมือนไม่ยุติธรรมนัก เราจำเป็นต้องมีธรรมอันเป็นเครื่องยุติ ทุกข์หายหรือคลายลง นั่นแหและครับความยุติธรรมที่แท้จริงจากจิตของเราเอง พวกเรากำลังก้มหน้าก้มตาดุ่มเดินบนเส้นทางวิบากอันกันดาร ถ้าไม่รู้จักกฎและการทำงานของกรรมวิบาก อย่างน้อยขอให้รู้จักกฎและการทำงานของจิตตัวเองเถิด แล้วจะพบความจริงอันเป็นที่สุด นั่นคือไม่ว่าเรื่องราวจะร้ายแรงเพียงใด ทุกข์เป็นสิ่งดับได้ และหลังจากดับจริงด้วยปัญญา สิ่งที่เหลือคือความสุขสงบอันประณีต คุณจะไม่รู้จักสุขชนิดนั้นด้วยความอาฆาตและการแก้แค้นเป็นอันขาด ถาม คนที่เป็นโสเภณีนี่มีกรรมเก่าให้ต้องมาเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าคะ? ต้องแยกเป็นสองประเภทครับ ประเภทแรกคือสมัครใจเป็นโสเภณี อันนี้ไม่จำเป็นต้องมีกรรมจากชาติไหนมาดลใจหรือสร้างสถานการณ์ อย่างเช่นเห็นได้ชัดว่าปัจจุบันสาวๆสวยๆบางกลุ่มมีฐานะดี แต่ก็เป็นข่าวขายตัวหรือถ่ายหนังโป๊ อย่างไรก็ตาม แม้ไม่มีกรรมในอดีตชาติที่บันดาลให้เป็นโสเภณีโดยตรง ก็อาจมีกรรมทางอ้อมได้อยู่ เช่นเคยเป็นพ่อแม่ที่ด่าลูกสาวเสียๆหายๆให้เจ็บใจ ทำนองร่าน วันหนึ่งคงต้องไปขายตัว หรือเคยเป็นคนปากเสียกระทบกระเทียบนักบวชหญิงทำนองเป็นหญิงแพศยา พวกนี้แม้เกิดใหม่ไม่ถูกส่งเข้าซ่องโดยตรง ก็จะมีเหตุการณ์บีบให้คิดอยากเป็นโสเภณีอยู่หลายวูบ เช่นเข้าตาจนทางการเงิน มีคนเสนอให้เอากายเข้าแลก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งและการตัดสินใจในชาติปัจจุบัน ว่าจะยอมสู้ด้วยวิถีทางอื่นหรือเลือกวิธีขายร่างตามสถานการณ์พาไป สังคมปัจจุบันมองเซ็กซ์และการขายตัวไม่ใช่เรื่องน่าตกใจเหมือนโบราณ นั่นจึงเป็นช่อง เป็นโอกาสให้ผู้หญิงที่กำลังตกระกำลำบากยับยั้งชั่งใจน้อยลง หากไม่มีธรรมะและความเข้าใจเป็นภูมิคุ้มกันแต่แรก ก็กล่าวได้ว่าความยากจนในยุคนี้คือแรงดึงดูดทรงพลัง ให้ผู้หญิงเลือกอาชีพขายศักดิ์ศรีมากกว่าจะคิดต่อสู้เพื่อรักษามันไว้ โสเภณีอีกประเภทคือไม่สมัครใจจะเป็น แต่ถูกล่อลวงมา หรือถูกพ่อแม่ขาย อย่างเช่นที่มักมีข่าวขบวนการค้ามนุษย์แว่วมาถึงหูพวกเราเป็นประจำ อันนั้นก็เป็นกรรมเก่าที่เคยล่อลวงคนอื่น และเคยขายลูกขายเมียกินนั่นเอง ค่อนข้างตรงไปตรงมาครับ ไม่ซับซ้อน เคยขายคนอื่นเลยโดนขายมั่ง เมื่อก่อนผมก็รู้สึกบาดเจ็บและเหมือนจะทนไม่ได้กับการเห็นความเหี้ยมโหดของขบวนการค้ามนุษย์ แต่เดี๋ยวนี้พอรู้ชะตากรรมข้างหน้าของพวกเขาก็ปลงได้ เขาลุกนั่งอย่างไม่เป็นสุขกับขื่อแปของบ้านเมือง ไม่รู้ว่าวันไหนจะต้องเข้าซังเตหรือถูกยิงเป้า ข้างหน้าที่ตามนุษย์มองไม่เห็นยังต้องโดนโทษทัณฑ์ในนรกที่สมน้ำสมเนื้อกับความเหี้ยมเกรียมของตน ยิ่งไปกว่านั้นหากบุญยังพาวาสนายังส่งให้ได้กลับมาเป็นมนุษย์อีก ก็ต้องโดนอย่างที่เคยๆทำกับคนอื่น แล้วคนอื่นก็จะมานั่งสงสารและรู้สึกบาดเจ็บแทนเขา เพียงเพราะไม่เห็นพฤติกรรมในหนหลังของเขา ถ้าอ่านๆไปแล้วเกิดความสลด ก็บอกตัวเองเถิดครับว่าคุณโชคดีมีวาสนาแล้ว เพราะความสลดจะก่อความคิดเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก และความเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกจะผลักคุณออกห่างจากทางโคจรอันเลวร้ายเหล่านี้ได้ โดย ดังตฤณ |